May 31, 2006

Another milestone

ปล่อยเวลาให้หยุดอยู่กับที่มานานแล้ว

ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้งแล้วล่ะ :)

May 25, 2006

...

อยากให้ใครคนนึงที่รักที่สุด

ได้มีคืนและวันที่แสนพิเศษ

อย่างที่เธอเคยให้ทุกอย่างกับฉัน

อยากให้มันมีค่ากว่าสิ่งใด ที่สุดเท่านั้น

กับรักที่เธอให้ฉันหมดหัวใจ

อยากจะเป็นคนดีที่ดีที่สุด

อยากจะเป็นผู้ชายที่พร้อมทุกอย่าง

อยากจะเป็นดั่งแสงสว่างสดใส

อยากให้เรามีบ้านของหัวใจ เนิ่นนานแค่ไหน

ฉันจะไม่เปลี่ยนใจจากวันนี้

ได้โปรดจับมือฉัน ทุกสิ่งอยู่ในนั้น

เป็นดังคำที่ฉันสัญญาให้เธอคนดี

วันเวลาทุกวินาที จะหยุดที่เธอคนนี้

ทั้งชีวิตจะมีเพียงเธอ

แต่จะมีอะไรที่ดีที่สุด

เท่ากับวันเวลาทุกๆ นาที

จะมีเธอเคียงข้างกันต่อจากนี้

สิ่งใดๆ ในโลกที่งดงามมากมายเพียงไหน

ไม่มีเธอก็หมดความหมาย

ทุกอย่างคือความรู้สึก

สิ่งที่คิดและฝันมันแสนยิ่งใหญ่

อาจจะทำอะไรผิดพลาดไป ฉันก็ยังตัดสินใจ

และจะไม่เปลี่ยนไปจากคนนี้

ได้โปรดจับมือฉัน ทุกสิ่งอยู่ในนั้น

เป็นดังคำที่ฉันสัญญาให้เธอคนดี

วันเวลาทุกวินาทีจะหยุดที่เธอคนนี้

ทั้งชีวิตจะมีเพียงเธอ

อยากกอดเธอตอนเช้า

และอยากให้เธอนั้น

เป็นคนเดียวที่ฉันได้เจอทุกๆ เวลา

ความทรงจำว่าฉันลืมตา

จะอยู่ที่เธอเท่านั้น ทั้งชีวิตจะมีเพียงเธอ

หากว่าคุณมีคนที่รักที่สุด

บอกกับเขาทุกวันว่ารักที่สุด

บอกกับเขาทุกเช้าที่ตื่นได้ไหม

อยากให้เขาเป็นบ้านของหัวใจ ที่มีความหมาย

รักและคอยห่วงใยอยู่ตรงนี้ และตลอดไป

May 14, 2006

วิชาเหมือนสินค้า ฉันจึงมาหาความหมาย

วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล
ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา
จงตั้งเอากายเจ้า เป็นสำเภาอันโสภา
ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ
นิ้วเป็นสายระยาง สองเท้าต่างสมอใหญ่
ปากเป็นนายงานไป อัชฌาศัยเป็นเสบียง
สติเป็นหางเสือ ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง
ถือไว้อย่าให้เอียง แล่นเลาะเลี่ยงข้ามคงคา
ปัญญาเป็นกล้องแก้ว ส่องดูแถวแนวหินผา
เจ้าจงเอาหูตา เป็นล้าต้าฟังดูลม
ขี้เกียจคือปลาร้าย จะทำลายให้เรือจม
เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมให้จมไป
จึงจะได้สินค้ามา คือวิชาอันพิศมัย
จงหมั่นมั่นหมายใจ อย่าได้คร้านการวิชา


----------------------------------

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง
ฉันจึง มาหาความหมาย
ฉันหวัง เก็บอะไรไปมากมาย
สุดท้าย ให้กระดาษฉันแผ่นเดียว

-----------------------------------------------

เชื่ออันไหนดี?

May 04, 2006

...

จำใจจำจากโอ้ จำลา
ไกลห่างสถานศึกษา หม่นเศร้า
เคยเรียนเล่นทุกครา แสนสุข ยิ่งเอย
ฝังจิตคิดค่ำเช้า ไป่ได้ ลืมเลือน

คงจะไม่มีการจบการศึกษาครั้งใด ประทับใจเท่าครั้งนั้นอีกแล้วกระมัง...

May 01, 2006

ทำไม?

หลายวันที่แล้วมีโอกาสได้สนทนาผ่านตัวหนังสือกับเจ้าหนูจัมไมคนหนึ่ง เธอถามว่า
“พี่คะ ทำไมปีนึงต้องมีสิบสองเดือนด้วยล่ะคะ”
“อืมมม ไม่งั้นโลกก็หมุนไม่ครบรอบพระอาทิตย์มั้งจ๊ะ มีสิบสองเดือนให้ครบสิบสองราศีด้วยไง เหมือนในเซนต์เซย่าน่ะหนู หนูเคยดูใช่มั้ยจ๊ะ”
“อ๋อ อืมมม ค่ะ แล้ว... แล้วทำไมเดือนนึงต้องมีสามสิบวันด้วยล่ะคะ ปีนึงมีซักหกเดือน เดือนละหกสิบวันไม่ได้หรอคะ”
“ก็ เดือนนึงจะได้เห็นพระจันทร์เต็มดวงสองครั้งไงล่ะจ๊ะ คนสมัยก่อนเนี่ย เค้าเก่งเหมือนกันนะ คิดคำนวณออกมาได้เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้เชียว”
“หรอคะ เอ... แล้ว ทำไมวันนึงต้องมีแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมงล่ะคะ ซักสี่สิบแปดไม่ได้หรอคะ หนูจะนอนซักวันละสามสิบชั่วโมงเชียว”
“เอ๊ แต่ปกติหนูก็นอนเยอะอยู่แล้วไม่ใช่หรอจ๊ะ อ๋อ แต่ที่วันนึงมียี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะว่าจะได้มีกลางวันกลางคืนอย่างละรอบไงจ๊ะ พอคนนอนหลับตอนกลางคืนแล้วตื่นขึ้นมาตอนเช้า เค้าเลยนับว่าเป็นอะไรใหม่ๆอีกอย่างนึงไงจ๊ะ”
“อื้มมม ค่ะ แต่หนูว่า ถ้าตอนนี้วันนึงมีสี่สิบแปดชั่วโมงจริงๆเนี่ย คำตอบที่ตอบให้หนูก็คงเป็นอีกอย่างนึงใช่มั้ยคะ”
“……”

---------------------------------------------------

หลังจากนั้นการสนทนาก็ถูกเปลี่ยนไปยังหัวข้ออื่น บทสนทนาข้างล่างนี้ เป็นบทสนทนาที่ถูกคิดขึ้นเอง...
....
...
..

“เอ๊ แต่ปกติหนูก็นอนเยอะอยู่แล้วไม่ใช่หรอจ๊ะ อ๋อ แต่ที่วันนึงมียี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะว่าจะได้มีกลางวันกลางคืนอย่างละรอบไงจ๊ะ พอคนนอนหลับตอนกลางคืนแล้วตื่นขึ้นมาตอนเช้า เค้าเลยนับว่าเป็นอะไรใหม่ๆอีกอย่างนึงไงจ๊ะ”
“อื้มมม ค่ะ แต่หนูว่า ถ้าตอนนี้วันนึงมีสี่สิบแปดชั่วโมงจริงๆเนี่ย คำตอบที่ตอบให้หนูก็คงเป็นอีกอย่างนึงใช่มั้ยคะ”
“ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นน่ะจ้ะ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คำถามของหนูก็คงไม่เหมือนกับตอนนี้อยู่ดีล่ะจ้ะ ถึงตอนนั้น หนูคงถามว่า ทำไมวันนึงต้องมืดๆสว่างๆตั้งสองรอบ แทนใช่มั้ยจ๊ะ… ก็การที่วันหนี่งต้องเห็นพระอาทิตย์ตกสองรอบ มันน่าสงสัยกว่าทำไมพระอาทิตย์ถึงขึ้นแล้วก็ตกวันละรอบเดียว อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้มากกว่าตั้งเยอะไม่ใช่หรอจ๊ะ?


------------------------------------------

เพลงที่ท่านได้รับฟังจบลงไปนั้น เป็นบทประพันธ์ของ Edvard Hagerup Grieg คีตกวีชาวนอร์เวย์ ชื่อเพลงว่า Peer Gynt 1 (Morning Mood) ถูกนำออกแสดงครั้งแรกในรูปแบบของเพลงสำหรับวงออเครสตราในปี ๑๘๗๖ และได้ถูกเรียบเรียงใหม่สำหรับเปียโนในภายหลัง

ปล. ถ้าผู้ใดมีเพลงนี้ที่เป็นเปียโนจริงๆเล่น กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกโดยด่วน จักเป็นพระคุณยิ่ง