มนุษย์กับความพอดี
สองสามวันนี้ หมกมุ่นอ่านหนังสืออยู่เล่มนึง เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมการลงทุน (อย่าเพิ่งหนีครับ เนื้อหาข้างในไม่ได้น่าเืบื่อเหมือนชื่อประเภทของมันหรอก) ใจความสำคัญก็ตรงกับชื่อหนังสือซะเหลือเกิ๊น (Fooled by Randomness) หลังจากที่ผ่านครึี่งเล่มมาแล้ว เหมือนกับคุณคนแต่งพยายามจะบอกว่า "ไอ้ที่คุณเล่นหุ้นแล้วรวยเอาๆน่ะ มันฟลุกทั้งนั้นแหละฮะ"
จริงๆแล้วคุณคนแต่งนี่ เ้ค้าก็มีการใช้เหตุผลที่น่าสนใจอยู่ทีเดียวแหละครับ แต่ว่าไอ้ที่น่าสนใจจริงๆ ก็คือตอนที่เค้ายกตัวอย่างเรื่อง survivorship bias - a tendency for failed companies to be excluded from performance studies due to the fact that they no longer exist [wikipedia.org] - นี่แหละครับ
เค้าเล่าว่า มีสามีภรรยาอยู่คู่นึง โดยที่สามีจบตรีจาก Harvard แล้วไปต่อโทที่ Yale และมีรายได้เป็นเงินหกหลัก(ยูเอสดอลลาร์)ต่อปี ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ ฯลฯ...
มีอยู่วันนึง ภรรยามาขอเลิกครับ... เจ๊เค้าให้เหตุผลว่า ทนอยู่ไม่ได้กับสภาพความเป็นอยู่ในขณะนี้ ทางฝ่ายสามีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น...
จริงๆแล้วเหตุผลก็คือ ทั้งสองคนอาศัยอยู่ในเขตที่มหาเศรษฐีในนครนิวยอร์กเค้าอยู่กัน ถึงทั้งสองคนจะรวยล้นฟ้า (ถ้าเทียบกับคนอื่นๆบนโลก) ขนาดไหน แต่ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ก็จะทำให้ตัวเองรู้สึกด้อยค่าลงไปทันใด...
อันที่จริงก่อนหน้านี้ คุณคนแต่งเค้ากล่าวถึงงานวิจัยทางด้านจิตวิทยาอยู่อันนึง งานอันนั้นเค้าทำแบบสอบถามว่า สมมติถ้ามีสถานการณ์ให้เลือกสองแบบ
๑. ได้เงินเดือน ๓๐๐๐๐ ในขณะที่เพื่อนบ้านได้ ๓๕๐๐๐
๒. ได้เงินเดือน ๒๕๐๐๐ ในขณะที่เพือนบ้านได้ ๒๐๐๐๐
โดยที่ราคาสิ่งของและค่าครองชีพต่างๆเท่ากันในทั้งสองกรณีนะครับ
คนส่วนใหญ่เลือกข้อสองครับ...
ปล. อ้อ ลืมบอกชื่อคนแต่ง เค้าชื่อ "ทาเล็บ" ครับ (ไม่แน่ใจว่ามีน้องชื่อทาปากและทามาสคาร่าด้วยรึเปล่า (- -')
ปล ๒. ต้อนรับสมาชิกใหม่สู่ห้องสี่เหลี่ยม(ที่แสนจะแคบอยู่แล้ว)ห้องนี้ด้วยนะ

3 Comments:
เราอยากได้เงินเดือน 30000
เพื่อนบ้านได้ 35000
แล้วเราจะเดินไปขอยืมเงินจากเพื่อนบ้าน
5000
แต่ไม่คืน
เราก็จะมีเงินเยอะขึ้น
แต่ก็ไม่น้อยกว่าเพื่อนบ้านด้วย
แผนนี้ใช้ได้เฉพาะเดือนแรกนะ -_-'
"ความพอดี"
Harmony of Life
Post a Comment
<< Home