บริษัทค้ายา
เนื่องด้วยอาทิตย์นี้ มีภารกิจที่จะต้องศึกษาบริษัทค้ายาสองบริษัทใหญ่ๆในอเมริกา เพื่อที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจว่า สมควรจะลงทุนในบริษัทเหล่านี้รึเปล่า หรือสรุปสั้นๆว่า เราจะซื้อหุ้นมันดีมั้ย(วะ) นั่นเอง
การอ่านรายงานประจำปีก็เป็นขั้นตอนหนึี่งที่สำคัญมาก เพราะมันจะบอกถึงสถานะทางการเงินของบริษัท นโยบายและวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร จำนวนพนักงาน สัดส่วนของเลขาหน้าห้อง CEO และอื่นๆ...
อ่านไปอ่านมา รายงานของทั้งสองบริษัทมีที่ๆคล้ายกันอยู่แห่งนึงคือ เค้าเขียนไว้ว่า
"เราจะพยายามบริหารให้ดีที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ในขณะเดียวกัน เราก็จะทำเพื่อผู้ป่วยทั้งหลายด้วยเช่นกัน"
ประโยคข้างบนนี่ ชวนให้คิดเหลือเกินว่า จุดมุ่งหมายทั้งสองอย่างนั้น มันไปด้วยกันได้จริงๆหรือ ในเมื่อบริษัทก็ต้องทำกำไร แล้วกำไรที่หามาได้นั้น ก็ไม่ได้มาจากไหน นอกจากเงินในบัญชีของผู้ป่วยทั้งหลายนั่นเอง
จริงอยู่ที่ว่า การเป็นบริษัทนั้นทำให้เกิดสภาวะการแข่งขันกัน (และเค้า่ว่ากันว่า จะทำให้หน่วยงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมือนบริษัทใหญ่ๆบริษัทหนึี่งแถวบางกรวย) แต่ด้วยธรรมชาิติของอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งงานวิจัยเป็นหลัก อย่างเช่นอุตสาหากรรมยาแล้ว จำนวนสิทธิบัตรอันมากมาย ก็คงจะไม่สามารถทำให้บริษัทใหม่ๆเข้ามาแข่งขันได้เท่าไหร่
อีกคำถามนึงก็คือ การแข่งขันมันทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น และทำให้เกิดการคิดค้นยาชนิดใหม่ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติจริงหรือ? โดยธรรมชาติของคนที่ทำงานด้านค้นคว้าวิจัย ถ้าลักษณะงานเหมือนกัีน เงินดีพอๆกัน ถ้าได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักแล้ว พวกเขาเหล่านั้นคงจะไม่สนใจหรอกว่าหน่วยงานที่ทำงานให้ เป็นบริษัทเอกชน หรือเป็นหน่วยงานประเภทอื่นอะไรซักอย่างนึง
มันจะเป็นไปได้มั้ยว่า จะมีองค์กรซักองค์กรนึง ทำเพื่อคนป่วยอย่างแท้จริง ถึงตอนนั้น ยาทั้งหลายคงถูกกว่านี้เยอะ...
...
..
.
เขียนจนเกือบลืมว่า บ้านตัวเองก็ขายยานี่หว่า...
---------------------------------
"Last Snow"
