April 26, 2006

บริษัทค้ายา

เนื่องด้วยอาทิตย์นี้ มีภารกิจที่จะต้องศึกษาบริษัทค้ายาสองบริษัทใหญ่ๆในอเมริกา เพื่อที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจว่า สมควรจะลงทุนในบริษัทเหล่านี้รึเปล่า หรือสรุปสั้นๆว่า เราจะซื้อหุ้นมันดีมั้ย(วะ) นั่นเอง

การอ่านรายงานประจำปีก็เป็นขั้นตอนหนึี่งที่สำคัญมาก เพราะมันจะบอกถึงสถานะทางการเงินของบริษัท นโยบายและวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร จำนวนพนักงาน สัดส่วนของเลขาหน้าห้อง CEO และอื่นๆ...

อ่านไปอ่านมา รายงานของทั้งสองบริษัทมีที่ๆคล้ายกันอยู่แห่งนึงคือ เค้าเขียนไว้ว่า
"เราจะพยายามบริหารให้ดีที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ในขณะเดียวกัน เราก็จะทำเพื่อผู้ป่วยทั้งหลายด้วยเช่นกัน"
ประโยคข้างบนนี่ ชวนให้คิดเหลือเกินว่า จุดมุ่งหมายทั้งสองอย่างนั้น มันไปด้วยกันได้จริงๆหรือ ในเมื่อบริษัทก็ต้องทำกำไร แล้วกำไรที่หามาได้นั้น ก็ไม่ได้มาจากไหน นอกจากเงินในบัญชีของผู้ป่วยทั้งหลายนั่นเอง

จริงอยู่ที่ว่า การเป็นบริษัทนั้นทำให้เกิดสภาวะการแข่งขันกัน (และเค้า่ว่ากันว่า จะทำให้หน่วยงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมือนบริษัทใหญ่ๆบริษัทหนึี่งแถวบางกรวย) แต่ด้วยธรรมชาิติของอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งงานวิจัยเป็นหลัก อย่างเช่นอุตสาหากรรมยาแล้ว จำนวนสิทธิบัตรอันมากมาย ก็คงจะไม่สามารถทำให้บริษัทใหม่ๆเข้ามาแข่งขันได้เท่าไหร่

อีกคำถามนึงก็คือ การแข่งขันมันทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น และทำให้เกิดการคิดค้นยาชนิดใหม่ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติจริงหรือ? โดยธรรมชาติของคนที่ทำงานด้านค้นคว้าวิจัย ถ้าลักษณะงานเหมือนกัีน เงินดีพอๆกัน ถ้าได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักแล้ว พวกเขาเหล่านั้นคงจะไม่สนใจหรอกว่าหน่วยงานที่ทำงานให้ เป็นบริษัทเอกชน หรือเป็นหน่วยงานประเภทอื่นอะไรซักอย่างนึง

มันจะเป็นไปได้มั้ยว่า จะมีองค์กรซักองค์กรนึง ทำเพื่อคนป่วยอย่างแท้จริง ถึงตอนนั้น ยาทั้งหลายคงถูกกว่านี้เยอะ...

...
..
.

เขียนจนเกือบลืมว่า บ้านตัวเองก็ขายยานี่หว่า...
---------------------------------




"Last Snow"

April 19, 2006

ฟ้าจ๋าฟ้า...

วันนี้มี MV มาฝาก...


ฟ้าจ๋าฟ้า... อยากรู้ว่า ขอบฟ้าเริ่มตรงที่ใด...









ฟ้าจ๋าฟ้า... อยากรู้ว่าฟากฟ้าล่องลอยไปไหน...
















ฟ้าจ๋าฟ้า... อยากรู้ว่าปลายฟ้าสิ้นสุดที่ใด...

















เก็บเอาความสดใส ใส่ไว้ให้ทั่วฟ้า...















อยากหยิบเดือนดารา... ประดับประดา...









ฟ้าเป็นประกาย.....นะฟ้าจ๋าฟ้า



April 18, 2006

มนุษย์กับความพอดี

สองสามวันนี้ หมกมุ่นอ่านหนังสืออยู่เล่มนึง เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมการลงทุน (อย่าเพิ่งหนีครับ เนื้อหาข้างในไม่ได้น่าเืบื่อเหมือนชื่อประเภทของมันหรอก) ใจความสำคัญก็ตรงกับชื่อหนังสือซะเหลือเกิ๊น (Fooled by Randomness) หลังจากที่ผ่านครึี่งเล่มมาแล้ว เหมือนกับคุณคนแต่งพยายามจะบอกว่า "ไอ้ที่คุณเล่นหุ้นแล้วรวยเอาๆน่ะ มันฟลุกทั้งนั้นแหละฮะ"

จริงๆแล้วคุณคนแต่งนี่ เ้ค้าก็มีการใช้เหตุผลที่น่าสนใจอยู่ทีเดียวแหละครับ แต่ว่าไอ้ที่น่าสนใจจริงๆ ก็คือตอนที่เค้ายกตัวอย่างเรื่อง survivorship bias - a tendency for failed companies to be excluded from performance studies due to the fact that they no longer exist [wikipedia.org] - นี่แหละครับ

เค้าเล่าว่า มีสามีภรรยาอยู่คู่นึง โดยที่สามีจบตรีจาก Harvard แล้วไปต่อโทที่ Yale และมีรายได้เป็นเงินหกหลัก(ยูเอสดอลลาร์)ต่อปี ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ ฯลฯ...

มีอยู่วันนึง ภรรยามาขอเลิกครับ... เจ๊เค้าให้เหตุผลว่า ทนอยู่ไม่ได้กับสภาพความเป็นอยู่ในขณะนี้ ทางฝ่ายสามีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น...

จริงๆแล้วเหตุผลก็คือ ทั้งสองคนอาศัยอยู่ในเขตที่มหาเศรษฐีในนครนิวยอร์กเค้าอยู่กัน ถึงทั้งสองคนจะรวยล้นฟ้า (ถ้าเทียบกับคนอื่นๆบนโลก) ขนาดไหน แต่ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ก็จะทำให้ตัวเองรู้สึกด้อยค่าลงไปทันใด...

อันที่จริงก่อนหน้านี้ คุณคนแต่งเค้ากล่าวถึงงานวิจัยทางด้านจิตวิทยาอยู่อันนึง งานอันนั้นเค้าทำแบบสอบถามว่า สมมติถ้ามีสถานการณ์ให้เลือกสองแบบ
๑. ได้เงินเดือน ๓๐๐๐๐ ในขณะที่เพื่อนบ้านได้ ๓๕๐๐๐
๒. ได้เงินเดือน ๒๕๐๐๐ ในขณะที่เพือนบ้านได้ ๒๐๐๐๐
โดยที่ราคาสิ่งของและค่าครองชีพต่างๆเท่ากันในทั้งสองกรณีนะครับ

คนส่วนใหญ่เลือกข้อสองครับ...

ปล. อ้อ ลืมบอกชื่อคนแต่ง เค้าชื่อ "ทาเล็บ" ครับ (ไม่แน่ใจว่ามีน้องชื่อทาปากและทามาสคาร่าด้วยรึเปล่า (- -')
ปล ๒. ต้อนรับสมาชิกใหม่สู่ห้องสี่เหลี่ยม(ที่แสนจะแคบอยู่แล้ว)ห้องนี้ด้วยนะ

April 13, 2006

Harmony of Life

Harmony

"Harmony is the use and study of pitch simultaneity and chords, actual or implied, in music. It is sometimes referred to as the "vertical" aspect of music, with melody being the "horizontal" aspect."
wikipedia.org


หรือแปลเป็นไทยได้คร่าวๆว่า ไอ้ฮาร์โมนีเนี่ย คือการศึกษาวิธีการเอาเสียงมาเรียงซ้อนๆกัน (ตามแนวตั้ง) ว่าจะทำยังไงให้ฟังดูดีและไพเราะ เค้าว่าเป็นของคู่กันกับ melody ซึ่งเป็นการเอาเสียงมาเรียงกันตามแนวนอน

ถ้าใครนึกภาพไม่ออก เรามี vtr มาให้ชมกันครับ... (ทำนองเพลง dog ของ a capella 7)


Melody: ปุ๊ม ปุมปุม ปุ๊ม ปุ๊ม ปุ่มปุ่ม ปุ๊ม ปุ่ม
Harmony: หู่................ฮู.............ฮูฮู้ฮูหู่....ฮู

อะไรประมาณนี้แหละครับ...
--------------------

Harmony of Life

ที่มาของชื่อ
ด้วยความที่ว่า ถ้าจะมีบล๊อกเป็นของตัวเองบ้างแล้ว ก็อยากที่จะับันทึกเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ณ เวลาหนึี่งเวลานั้น (harmonic blog) มากกว่าที่จะบรรยายประวัติชีวิตตัวเองทั้งในอดีต และแผนการณ์ในอนาคต (melodic blog)
ก็เลยนั่งคิด นั่งอ่าน และนั่งค้นคว้าอยู่เป็นเวลานานว่าจะใช้ชื่อบล๊อกว่าอะไรดี สุดท้ายก็ไปสะดุดกับคำว่า harmony นี่แหละ ตรงกับคอนเซปต์ของบล๊อกที่สุัดแล้ว






ใช่แล้วครับ ย่อหน้าข้างบนคือการโกหกครับ...
จริงๆแล้วต้องขอขอบคุณเจ้าของบล๊อก "The Sand Journey" [http://www.sayophobiaclub.blogspot.com] ที่เป็นคนคิดชื่อนี้ขึ้นมาให้ ขอใช้เป็นการถาวรเลยก็แล้วกันนะ :)



สวัสดีปีใหม่ครับ